การดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงภาคการเกษตร
วิถีชีวิตของเกษตรกรไทยในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจสังคมและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติทำให้มีต้นทุนการผลิตสูงมีรายได้ไม่เพียงพอและมีหนี้สิน
จึงจำเป็นต้องปรับระบบการเกษตรของครัวเรือนให้สอดคล้องกับสภาวะการผลิตและการตลาดในปัจจุบันตามความเหมาะสมของระบบนิเวศเกษตรโดยใช้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจะทำให้ครัวเรืองเกษตรกร
มีความมั่นคงในอาชีพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อย่างยั่งยืนต่อไป
1.
การลดรายจ่าย
เพื่อเป็นการประหยัดลดรายจ่ายในครอบครัวและเป็นผลดีต่อสุขภาพ
การทำผักสวนครัวรั้วกินได้เป็นอาหารสำหรับการบริโภคในครัวเรือน นับเป็นงานอดิเรกที่สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว พ่อแม่ลูก
ได้มีเวลาในการพูดคุยกันและช่วยเหลืองานกัน แม้ไม่มีพื้นที่ก็สามารถทำสวนครัวในบ้านได้ เช่น
การปลูกพริกในกระถาง
หรือปลูกในภาชนะแขวน ฯลฯ
พืชที่ปลูกก็เป็นพืชที่ใช้ประจำในครัวเรือน เช่น
พริก มะเขือ ชะพลู
หอม ผักชี ชะอม
ตำลึง ผักหวาน เป็นต้น
2.
การเพิ่มรายได้
โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในครัวเรือนให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างรายได้ เช่น
การถนอมอาหาร
แปรรูปงานฝีมือในหัตถกรรมสิ่งประดิษฐ์
การผลิตกล้าไม้ดอกไม้ประดับ
การเลี้ยงสัตว์ ประมง การเพาะถั่วงอก เพาะเห็ด
เป็นต้น ทำให้มีรายได้ เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมทางการเกษตร
3.
การขยายโอกาส
เกิดจากการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ครอบครัว ชุมชน โดยการร่วมมือการสร้างอาชีพ
ได้เหมาะสมกับทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า บุตร-หลานได้รับการศึกษาสูงขึ้น ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถรวบรวมกันจัดการตลาดแหล่งเงินทุน
และเครือข่ายมาใช้ในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน ทำให้ครอบครัวมีความมั่นคงและอบอุ่นต่อไป
4.
เศรษฐกิจพอเพียงด้านการเกษตร
เกษตรกรสามารถดำเนินชีวิตตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียงได้ โดยการทำการเกษตร ที่ผลิตเพื่อการบริโภคในครัวเรือนก่อน ถ้ามีเหลือจึงจำหน่ายเป็นรายได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ที่แบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนๆมีพื้นที่นาข้าว พืชไร่
ไม้ผล สระน้ำ และบริเวณบ้าน
เพื่อให้มีกิจกรรมการผลิต
ที่หลากหลาย
มีผลผลิตออกทุกฤดูกาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น